มาตรฐานสายสัญญาณ
สมาคมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์หรือ EIA (Electronics Industries Association) และสมาคมอุตสาหกรรมโทรคมนาคม (Telecommunicatio Industries Association) ได้ร่วมกันกำหนดมาตรฐาน EIA/TIA 568 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้ในการผลิตสาย UTP โดยมาตรฐานนี้ได้แบ่งประเภทของสายออกเป็นหลายประเภท โดยแต่ละประเภทจะเรียกว่า Category N โดย N คือหมายเลขที่บอกประเภท ส่วนสถาบันมาตรฐานนานาชาติ (International Organization for Standardization) ได้กำหนดมาตรฐานนี้เช่นกัน โดยจะเรียกสายแต่ละประเภทเป็น Class A-F คุณสมบัติโดยทั่วไปของสายแต่ละประเภทเป็นดังนี้
Category 1/Class A : เป็นสายที่ใช้ได้กับระบบโทรศัพท์อย่างเดียว โดยสายนี้ไม่ สามารถใช้ในการส่งข้อมูลแบบดิจิตอลได้ สายโทรศัพท์ที่ใช้ก่อนปี 1983 จะเป็นสายแบบ Cat 1
Category 2/Class B : เป็นสายที่รองรับแบนด์วิดท์ได้ถึง 4 MHz ซึ่งทำให้สามารถส่งข้อมูลแบบดิจิตอลได้ถึง 4 Mbps ซึ่งจะประกอบด้วยสายคู่เกลียวบิดอยู่ 4 คู่
Category 3/Class C : เป็นสายที่สามารถส่งข้อมูลได้ถึง 16 Mbps และมีสายคู่เกลียวบิดอยู่ 4 คู่
Category 4 : ส่งข้อมูลได้ถึง 20 Mbps และมีสายคู่เกลียวบิดอยู่ 4 คู่
Category 5/Class D : ส่งข้อมูลได้ถึง 100 Mbps โดยใช้ 2 คู่สาย และรับส่งข้อมูลได้ถึง 1000 Mbps เมื่อใช้ 4 คู่สาย
Category 5 Enhanced (5e) เช่นเดียวกับ Cat 5 แต่มีคุณภาพของสายที่ดีกว่า เพื่อรองรับการส่งข้อมูลแบบฟูลล์ดูเพล็กซ์ที่ 1000 Mbps ซึ่งใช้ 4 คู่สาย
Category 6/Class E : รองรับแบนด์วิดท์ได้ถึง 250 MHz
Category 7/Class F : รองรับแบนด์วิดท์ได้ถึง 600 MHz และกำลังอยู่ในระหว่างการ วิจัย
มาตรฐาน EIA/TIA 568 นั้นได้กำหนดคุณสมบัติต่างๆของสายสัญญาณ UTP ดังนี้
- ความต้านทาน (Impedance) : โดยทั่วไปจะกำหนดไว้ที่ 100 Ohm +15%
- ค่าสูญเสียสัญญาณ (Attenuation) : ของสายที่ความยาว 100 เมตรคืออัตราส่วนระหว่างกำลังสัญญาณที่ส่งต่อกำลังสัญญาณที่วัดได้ที่ปลายสาย โดยมีหน่วยเป็นเดซิเบล (dB)
- NEXT (Near-End Cross Talk) : เป็นค่าของสัญญาณรบกวนของสายคู่ส่งต่อสายคู่รับที่ฝั่งส่งสัญญาณ โดยวัดเป็นเดซิเบลเช่นกัน
- PS-NEXT (Power-Sum NEXT) : เป็นค่าที่คำนวณได้จากสัญญาณรบกวน NEXT ของสายอีก 3 คู่ ที่มีผลต่อสายคู่ที่วัด ค่านี้จะมีผลเมื่อใช้สายสัญญาณทั้งคู่ในการรับส่งสัญญาณ เช่น กิกะบิตอีเธอร์เน็ต
- FEXT (Far-End Cross Talk) : จะคล้ายกับ NEXT แต่เป็นการวัดค่าสัญญาณรบกวนที่ปลายสาย
- ELFEXT (Equal-Level Far-End Cross Talk) : เป็นค่าที่คำนวณได้จากค่าสูญเสียของสัญญาณ (Attenuation) ลบด้วยค่า FEXT ดังนั้นค่า ELFEXT ยิ่งสูงแสดงว่าค่าสูญเสียยิ่งสูงด้วย
- PS-ELFEXT (Power-Sum Equal-Level Far-End Cross Talk) : เป็นค่าที่คำนวณคล้ายๆกับค่า PS-NEXT คือเป็นค่าที่คำนวณได้จากการรวม ELFEXT ที่เกิดจากสายสามคู่ที่เหลือ
- Return Loss : เป็นค่าที่วัดได้จากอัตราส่วนระหว่างกำลังสัญญาณที่ส่งไปต่อกำลังสัญญาณที่สะท้อนกลับมายังต้นสาย
- Deley Skew : เนื่องจากสัญญาณเดินทางบนสายสัญญาณแต่ละคู่ด้วยเวลาที่ต่างกัน ค่าดีเลย์สกิวคือ ค่าแตกต่างระหว่างคู่ที่เร็วที่สุดกับคู่ที่ช้าที่สุด
PIN # | Signal | TIA/EIA 568A | TIA/EIA 568B |
1 | Transmit+ | ขาวเขียว | ขาวส้ม |
2 | Transmit+ | เขียว | ส้ม |
3 | Receive+ | ขาวส้ม | ขาวเขียว |
4 | N/A | น้ำเงิน | น้ำเงิน |
5 | N/A | ขาวน้ำเงิน | ขาวน้ำเงิน |
6 | Receive+ | ส้ม | เขียว |
7 | N/A | ขาวน้ำตาล | ขาวน้ำตาล |
8 | N/A | น้ำตาล | น้ำตาล |